การลดน้ำหนัก ไม่ได้แปลว่าต้องกินแต่เมนูอกไก่อย่างเดียว แท้จริงแล้ว เมนูอร่อยๆ ก็กินได้สบายๆ เลยนะ ถ้าคุณเข้าใจหลักการนี้ (ไม่ต้องนับแคลด้วย)

หัวใจของ การลดน้ำหนัก ไม่ใช่แค่การอดอาหาร หยุดกินสิ่งที่อยาก ลด ละ เลิก การกินแป้ง หรือ หยุดกินของอร่อยๆ ไปในทันที จริงอยู่ว่า หากคุณทำตามที่ว่ามา น้ำหนักคุณจะลดลงได้แน่นอน ซึ่งผมบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับว่า การลดน้ำหนักนั้น ใครๆ ก็ทำได้ครับ แต่ที่ยากกว่า นั่นคือการคุมน้ำหนักไม่ให้กลับมา เพราะไอ้การที่เราต้อง ลด ละ เลิก กินของอร่อยๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ มันทำได้อยู่แล้ว แต่พอเราได้น้ำหนักที่เราพอใจ ไม่นานเราก็จะหันกลับมากินในสิ่งที่อยากกิน แล้วก็กลับมาอ้วนอีก วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีที่จะทำให้เรา มีความสุขกับการกิน น้ำหนักไม่ขึ้น และทำได้แบบยั่งยืน คือ คุมน้ำหนักได้สบายๆ น้ำหนักตัวก็จะนิ่ง ต่อให้บางวันเรากินเยอะ กินขนม หรือ กินอะไรที่ไม่ดี เช่น ฟาสต์ฟู้ด ก็ไม่ได้ทำให้เราน้ำหนักขึ้นจนกลับไปอ้วนเหมือนเดิมอีกต่อไป นี่เป็นวิธีที่ผมใช้ ซึ่งทุกวันนี้ น้ำหนักตัวผมก็นิ่งอยู่ที่ 68-69 กก. ไม่ขยับไปไหนเกินจากนี้แน่นอน 

การลดน้ำหนัก ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเลิกกินของอร่อยนะ ของอร่อยก็กินได้ ไม่อ้วน

เคล็ดลับ การลดน้ำหนัก แบบยั่งยืน ไม่ต้องนับแคล ไม่ต้องคำนวณตัวเลขให้ปวดหัว 

สำหรับผมจากที่ลองวิธีลดน้ำหนักมาหลายวิธี ทั้ง IF (Intermittent Fasting) หรือ งดแป้ง หรือ คีโต ลองมาหมดละ บอกเลยว่า ถ้าทำตามวิธีต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยลดน้ำหนักได้จริงในเวลาอันสั้นครับ แต่ปัญหาคือ วิธีพวกนี้ มันไม่ยั่งยืน เราทำแบบยั่งยืนไม่ได้ครับ ร่างกายของเราจะพังได้ และต้องคำนวณอะไรต่างๆ มากมายเต็มไปหมด เรียกง่ายๆ ว่า นับแคล คุมแคลกันจนเครียด หลุดแคล หลุด IF ไม่ได้กันเลยทีเดียว ยิ่งเราเป็นคนทำงาน ไม่ได้ว่างอยู่บ้าน มีเวลานั่งเตรียมอาหารเอง มันยากมากนะครับที่จะทำสิ่งพวกนี้แบบยั่งยืน ยาวนาน อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ว่า จุดเริ่มต้นของการ ลดน้ำหนัก ลดไขมัน และสร้างกล้าม ของผมมาจากอะไร ไปย้อนอ่านกันได้นะครับ

ผมก็เลยลองวิธีแบบง่ายๆ กลับมาสู่พื้นฐาน หรือ Back to Basic นั่นคือ ทำ 5 วิธีนี้ครับ

1. ออกกำลังกายทุกวัน เช่น คาร์ดิโอ 30+ นาทีขึ้นไป ในทุกๆ วัน จะเดินก็ได้ วิ่งก็ได้ ถ้าวันไหนมีเวลามากหน่อย เติมการ Weight Training เข้าไปด้วย จะดีมากๆ 

2. กินแป้งได้ ไม่ต้องงดแป้ง แต่ให้กินในปริมาณที่พอเหมาะ จะกินเท่ากับโปรตีน หรือ น้อยกว่าโปรตีนก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ เน้นโปรตีนเป็นอันดับ 1 จากนั้นก็แป้งรองลงมา แล้วตามด้วยไขมัน ซึ่งต้องเป็นไขมันดีเท่านั้น ไขมันไม่ดีอย่ากิน (ไขมันดี ไขมันไม่ดี คืออะไร ไว้อธิบายให้ฟังกันในบทความต่อๆ ไปนะครับ)

3. งดของทอด ของผัดน้ำมัน ย่างพอกินได้ หรือถ้าจะให้ปลอดภัยก็ ต้ม ตุ๋น นึ่ง ลวก หรือ ผัดน้ำ พวกนี้ได้อยู่

4. นอนให้พอ วันละ 6-7 ชม. ขึ้นไป ถ้าได้มากกว่านี้ก็ยิ่งดี 

5. กินผักและผลไม้เยอะๆ โดยเฉพาะผลไม้ เลือกผลไม้ที่น้ำตาลต่ำ กากใยสูง 

ยกตัวอย่าง เช่น วันนี้ผมก็กินชาบูที่บ้าน ใส่หม้อต้มไฟฟ้าแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้หม้อสุกี้ชาบูอะไรให้วุ่นวาย จะได้ล้างง่ายๆ แล้วก็จับผัก เนื้อสัตว์ โยนๆ ลงไป โดยเลือกใช้เป็นหมูส่วนที่มีมันน้อยๆ แล้วก็กินได้เลย เอาแค่รู้สึกอิ่ม ไม่ต้องกินแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งเวลาที่เราลดน้ำหนักมาแล้ว กระเพราะอาหารเราจะเล็กลง เราจะกินได้น้อยลงกว่าเดิม โดยอัตโนมัติอยู่แล้วครับ 

เนื้อหมูก็กินได้ มีมันนิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหา

เนื้อสัตว์ติดมัน กินได้ แต่ไม่ใช่กินหมูสามชั้น อันนั้นก็ไม่ใช่ กินแบบที่มีมันติดมาแบบเล็กน้อย พวกเนื้อส่วนที่เป็น "สัน"​ ต่างๆ แบบนี้กินได้ ไก่ก็กินได้ทุกส่วน ยกเว้นหนัก ไม่ต้องกินแต่อกไก่หรอกครับ ผมลองทำแล้ว มันไม่ไหว กินนานๆ ชีวิตเหมือนตกนรก คือ เราจะมีชีวิตด้วยการกินแต่อาหารที่มันไม่อร่อย ซ้ำๆ จำเจ ไปเพื่ออะไร? เราก็ต้องปรับเปลี่ยนกินโปรตีนให้หลากหลาย ปลาบ้าง ไก่บ้าง หมูบ้าง เนื้อวัวบ้าง สลับสับเปลี่ยนกันไป ขอแค่อย่ากินส่วนที่เป็นมันเยอะ 

ผักกินได้ไม่อั้น อยากกินเท่าไหร่กินได้เลย ดีต่อสุขภาพด้วย

ผักนี่กินได้เต็มที่ ไม่ต้องยั้ง จัดหนักได้เลย ดีต่อระบบขับถ่าย อันนี้ชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว ส่วนผักประเภทหัว หรือ มีคาร์โบไฮเดรตสูงๆ ให้กินน้อยๆ ครับ เอาแค่พอดีๆ ไม่ต้องถึงกับนับแคล แต่กินแค่กำมือของเราแค่นั้นแหละ นับง่ายๆ 

แป้งอย่างเช่น ข้าว ก็กินได้ครับ อย่าไปงดแป้ง เพราะถ้าไปดูที่ ข้อ 1 ที่ผมแนะนำ มันคือ การออกกำลังกาย เราออกกำลังกายทุกวัน อย่าไปตัดแป้งครับ ยิ่งถ้าวันไหนเราเล่นเวทด้วยแล้ว ไม่ต้องงดแป้งเลยครับ แต่จำกัดปริมาณที่เหมาะสม เช่น ประมาณ 1 ถ้วยเล็ก หรือ  1 กำมือเรา แค่นั้นพอ ไม่ต้องไปชั่ง ตวง วัด ให้ชีวิตมันลำบากอะไรขนาดนั้น 

นี่คือ เมนูที่ดีต่อสุขภาพ กินแล้วไม่อ้วน แถมอร่อยอีกด้วย ผมทำกินกับครอบครัวบ่อยๆ น้ำหนักก็ไม่ได้ขึ้นนะ เล่นเวทเสร็จก็มากินเสริมกล้ามเนื้อ 

การลดน้ำหนัก มันไม่ได้เป็นอะไรที่ยากเลยครับ และคุณก็ไม่ต้องอดอาหาร หรือ ทำให้ตัวเองลำบากอะไรขนาดนั้น ผมทำมาหมดทุกวิธีแล้ว บางวิธีมันทำแล้วได้ผลในระยะสั้น แต่ต้องแลกมากับการเสียสุขภาพจิต เกิดความเครียด และเหมาะกับคนว่างงาน ที่อยู่บ้าน มีเวลาว่างทำกับข้าว เตรียมอาหาร มีเวลาพักผ่อน อันนี้ทำได้ แต่คนที่เป็นวัยทำงาน มีหน้าที่การงานต้องออกไปทำ ใช้วิธีที่ผมแนะนำ ก็ลดน้ำหนักได้ครับ ที่สำคัญคือ ไม่เครียด ไม่ต้องเลิกกินของอร่อย และที่สำคัญ ทำได้ยั่งยืน ทำเป็น 10 ปี ก็ได้ ไม่มีผลเสียกับร่างกาย อย่าลืมนะครับว่า เราไม่ได้เป็นนักกีฬาที่ต้องลดน้ำหนักให้ได้ข้ามคืน เรามีเวลา เราก็ค่อยๆ ทำไป กว่าเราจะอ้วน เราต้องกินมานานแค่ไหน ค่อยๆ สะสมอาหารเข้าไปด้วยเวลาเท่าไหร่ การที่เราจะลดน้ำหนัก หรือ เอาสารอาหารที่เราสะสมไว้ออกจากร่างกาย ก็ควรจะนานพอๆ กันนะครับ ไม่ต้องรีบ ปลอดภัยที่สุดครับ

การลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว มีอันตรายนะครับ มันก็เหมือนเป็นการหักดิบอะไรสักอย่าง มันจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ผมก็เสียอวัยวะสำคัญไปแล้ว จากการลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบแบบนี้แหละ ก็เลยเอามาเตือนกัน ค่อยๆ ลด ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ปลอดภัยที่สุด อย่าไปรีบ อย่าไปเร่ง ค่อยๆ ลดทีนะนิด ตัวเราก็ไม่เครียด ร่างกายเองก็ไม่เครียด ลองพิจารณากันดูเอาเองนะครับ