รีวิวซีรี่ส์สุดสยอง Monster: The Ed Gein Story หรือชื่อภาษาไทย ปีศาจ: เรื่องราวของ เอ็ด กีน
ก่อนอื่นเราเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ซีรี่ส์เรื่องนี้ ทำมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ บุคคลที่ชื่อว่า
Ed Gein (เอ็ด กีน) มีตัวตนอยู่จริง และเป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์อาชญากรรมของสหรัฐอเมริกา และ มี “หนังหลายเรื่อง” เอาเนื้อหาหรือข้อเท็จจริงบางส่วนจากประวัติของชายคนนี้ไปดัดแปลงสร้างตัวละครทำเป็นหนังสยองขวัญจนโด่งดัง เช่น Psycho, The Texas Chainsaw Massacre, และ The Silence of the Lambs
เอ็ด กีน มีชื่อเต็มว่า Edward Theodore Gein เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1906 ที่เมือง La Crosse รัฐวิสคอนซิน, สหรัฐฯ และเสียชีวิตเมื่อ 26 กรกฎาคม 1984 (อายุ 77 ปี) ในโรงพยาบาลจิตเวช เอ็ดกีนมีอาชีพเป็นชาวนา, ช่างซ่อมเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป แต่ด้วยอาชญากรรมที่เขาได้ก่อไว้ คนจึงตั้งฉายาต่อมาให้เขาว่า “The Butcher of Plainfield” หรือ “Plainfield Ghoul”
![]() |
| Ed Gein (เอ็ด กีน) ตัวจริง ขณะที่โดนจับกุมตัว |
สิ่งที่เขาได้ทำไว้ก็จะถูกเอามานำเสนอในซีรี่ส์เรื่องนี้ (แต่ไม่ทั้งหมดทุกอย่าง) แต่ตามข้อเท็จจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อปี 1957 ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของ Ed Gein หลังจากที่เกิดเหตุผู้หญิงเจ้าของร้านขายของชำในเมืองหายตัวไป ผลก็คือพวกเขาพบศพที่ถูกถลกหนังและชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมาก รวมทั้งเก้าอี้หุ้มหนังคน, โคมไฟทำจากกระโหลก, ถ้วยน้ำจากกะโหลกศีรษะ, เสื้อคลุมและหน้ากากที่เย็บจากผิวหนังหญิง ซึ่ง เอ็ด กีน ยอมรับว่า เขาได้ขุดศพผู้หญิงจากสุสาน มาทำสิ่งเหล่านี้ และฆ่าผู้หญิงอย่างน้อย 2 คน
เรื่องราวของเขาไม่ได้เป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ในเชิงจำนวนเหยื่อ แต่คดีของเขา “น่าขนลุก” "สยองขวัญ" และ “บ้าคลั่งทางจิต” จนกลายเป็นตำนานในวงการอาชญากรรมและสยองขวัญ
เอ็ด กีน ถูกตัดสินว่า “วิกลจริต” จึงถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ไม่ได้ถูกประหารชีวิต ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจ และคุณต้องทำความเข้าใจเอาไว้ตอนที่ดูซีรี่ส์ Monster: The Ed Gein Story เรื่องนี้ก็คือ การนำเสนอของซีรี่ส์จะสลับเวลาไปมาครับ คือ สลับเวลาไปเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงในพฤติกรรมของเอ็ด กีน และสลับมาในช่วงเวลาภายหลังที่มีการเอาเรื่องของเขามาทำเป็นภาพยนตร์ โดยผู้กำกับชื่อดังคนหนึ่ง มันจะสลับไปมาและพยายามบอกเล่าว่า สิ่งที่ เอ็ด กีน ได้ทำไว้ มันส่งผลกับนักแสดงที่มารับบทเป็นเขาด้วยเช่นกัน มันมีหลายสิ่งหลายอย่าง หลายประเด็นที่จะนำเสนอในซีรี่ส์นี้ โดยเฉพาะเรื่องของโรคจิตเภท เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่ใช่คอหนังสยองขวัญ ที่รับเนื้อหาหนักๆ ได้ ก็ไม่ควรดูเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณดูได้ รับได้ ชอบซีรี่ส์แนวสยองขวัญอยู่แล้ว เรื่องนี้ถือว่าดีครับ แต่ไม่ได้เลือดสาด ป่าเถื่อนเหมือน The Texas Chainsaw Massacre มันไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ชวนให้สยองจนขนลุกได้ไม่แพ้เรื่องอื่นเลยทีเดียว
ถ้าคุณจะดูซีรี่ส์เรื่องนี้ ควรเตรียมใจเพื่อรับเนื้อหาหนักๆ และภาพความสยดสยองเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ
คำเตือน: ไม่ควรดูซีรี่ส์เรื่องนี้ขณะรับประทานอาหาร เพราะคุณอาจจะกินไม่ลงทันที
ปล. นักแสดงที่มารับบทเป็น Ed Gein ในเรื่องนี้ เล่นโคตรดี พลิกบทบาทแบบสุดๆ เพราะถ้าใครยังจำกันได้ นักแสดงคนนี้ก็คือ Charles Matthew Hunnam พระเอกดังจากหนังหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Pacific Rim (2013), Papillon (2017) และ King Arthur: Legend of the Sword (2017) คือ จะเห็นได้ว่า เขาเป็นพระเอกแนวแอ็คชั่นมาโดยตลอด พอพลิกบทบาทมาเล่นบทนี้ โคตรจะเข้าถึง จนผมคิดว่าเขาน่าจะต้องได้รางวัลออสการ์แล้วล่ะ เล่นโคตรเนียน โคตรดีเลย อันนี้จากใจผมชอบการแสดงของเขามาก เหมือนคนเป็นโรคจิตจริงๆ เลยล่ะ
![]() |
| Charlie Hunnam พระเอกในเรื่อง Pacific Rim |
![]() |
| เอ็ด กีน ในเวอร์ชั่นซีรี่ส์ของ Netflix กับ ตัวจริง เทียบกันให้เห็นๆ |

%20%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%20%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7.jpg)

%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20Netflix.jpg)